อัพเดตข่าวสารต่างๆที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดขอนแก่น


Tuesday, July 28, 2015

อดีตข้าราชการตระเวนลักรถนักศึกษา เรียกค่าไถ่ผ่านเฟซบุ๊ก


เมื่อเวลา 13.30 น. (28 ก.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายณัฐธเดชน์ อายุ 51 ปี ชาว จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ (รถจักรยานยนต์) และรับของโจร พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์จำนวน 3 คัน


นอกจากนั้นยังพบตั๋วจำนำ จากร้านขายฝากอีกกว่า 10 ใบ ส่วนใหญ่เป็นนาฬิกาข้อมือ เครื่องใช้ไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์อีกหลายรายการ

พล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สืบเนื่องจากในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีรถจักรยานยนต์ของนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้หายไป จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขวาใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบในพื้นที่

ต่อมาผู้เสียหาย ได้ออกตามหารถจักรยานยนต์ของตนเอง ด้วยการลงประกาศในโซเชียล จากนั้นผู้ต้องหาก็คือนายณัฐธเดชน์ ได้ติดต่อมายังผู้เสียหายผ่านเฟซบุ๊ก ว่าพบเห็นรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย โดยได้เรียกรับเงินจากผู้เสียหายเป็นเงิน 6,400 บาท ถึงจะคืนรถให้ ผู้เสียหายจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อวางแผนจับกุมพร้อมของกลาง

โดยนายณัฐธเดชน์ หรือนายโก้ รับสารภาพว่า ตนเองเป็นอดีตข้าราชการ โดยถูกให้ออกจากราชการเนื่องจากขาดงานเกินกำหนดมานานกว่า 3 ปี ขณะนี้พักอาศัยอยู่ที่จังหวัดขอนแก่นและมหาสารคาม ทำงานรับจ้างทั่วไป ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ซึ่งต้องรับภาระเลี้ยงลูก 3 คน

อีกทั้งติดการพนันอย่างหนัก จึงได้ออกตระเวนลักทรัพย์ บริเวณมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เนื่องจากมีนิสิตเป็นจำนวนมาก โดยจะตระเวนไปตามสนามกีฬา และลานจอดรถ เพื่อไปงัดเบาะรถ หรือขโมยรถจักรยานยนต์ ซึ่งรถที่ขโมยไปได้จะนำไปขายที่จังหวัดขอนแก่น เงินที่ได้ก็จะนำไปเล่นการพนัน และส่งเสียลูกทั้งสามคนเรียนหนังสือ

ที่มา: Sanook


Sunday, July 26, 2015

นักธุรกิจขอนแก่น จัดพิธีแห่บั้งไฟล้านขอฝนทำนา


(26 ก.ค.58) เมื่อเวลา 11.00 น. ณ บ้านเลขที่ 129 หมู่3 บ้านหนองหว้า ต.ยางคำ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นตำหนักวังนาคินเทพประทานพร ได้มีนายเฮง ทองแท่งไทย นักธุรกิจชาวขอนแก่น พร้อมด้วยชาวบ้านได้จัดงานทำพิธีแห่บั้งไฟล้านเพื่อขอฝนทำนา หลังประสบปัญหาภัยแล้งฝนทิ้งช่วงมาเป็นเวลานาน


พิธีเริ่มด้วยการนิมนต์พระสงฆ์ชื่อดังในภาคอีสานมาสวดมนต์ เลี้ยงภัตตาหารเพล หลังจากนั้นได้มีนางวัชราภรณ์ ผ่องใส รองนายก อบจ.ขอนแก่น เป็นร่างทรงของพ่อขุนศรีร่มเย็นเป็นสุข เพื่อทำพิธีขอฝน โดยมีนายเฮง ทองแท่งไทย พร้อมกับชาวบ้านที่เชื่อในประเพณีบุญบั้งไฟให้ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาล มีน้ำให้ทำนาได้เข้าร่วมพิธีจำนวนมาก ซึ่งในพิธีต่างๆจะมีบทสวดมนต์ต่างๆ และคาถาขอฝน จากนั้นก็จะมีการแห่บั้งไฟล้านรอบบริเวณตำหนักและรูปปั้นพญานาค และในบริเวณหมู่บ้าน หลังจากนั้นจะเข้าพิธีจุดบั้งไฟล้าน ซึ่งเป็นที่อัศจรรย์เมื่อบั้งไฟขึ้นถึงฟ้าได้มีฝนตกมาให้ชาวบ้านได้มีน้ำฝนทำนา


นายเฮง กล่าวว่า  ตนทำธุรกิจหลายอย่างใน จ.ขอนแก่น ได้ทำบุญกุศลให้สังคมมาโดยตลอด เมื่อองค์มหาเทวพรหม (ปู่ขาว) และ พ่อขุนศรีร่มเย็นเป็นสุข ได้มาเข้าฝันบอกว่าบ้านเมืองมีปัญหา โดยเฉพาะ จ.ขอนแก่นฝนทิ้งช่วงมาเป็นเวลานานเกิดปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำทำนา ต้องมีพิธีแห่บั้งไฟล้านขอฝนทำนา จึงได้ร่วมกับชาวบ้านมาทำพิธีที่ตำหนักวังนาคินเทพประทานพร


ทั้งนี้ บุญบั้งไฟถือเป็นคติความเชื่อทางสังคมของชาวขอนแก่นและภาคอีสานทั่วไปที่วิถีชีวิตผูกพันกับธรรมชาติ เนื่องจากชาวบ้านต้องทำการกสิกรรมเลี้ยงชีพเป็นส่วนใหญ่ จึงต้องการน้ำจากธรรมชาติเพื่อเพาะปลูกพืชผลของตนเองจึงได้มีความเชื่อสืบต่อกันมาว่า เทพเจ้าที่ประทานน้ำให้แก่มนุษย์คือ "แถน" ซึ่งมีที่มาจากเรื่องพญาคันคาก ผู้รบชนะพญาแถนและขอให้แถนบันดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล พญาแถนจึงบอกให้พญาคันคาก ว่าต้องการฝนเมื่อใด ให้ส่งสัญญาณไปบอกด้วยการจุดบั้งไฟขึ้นฟ้าไป พญาแถนก็จะสั่งฝนลงมาให้ เมื่อถึงฤดูทำนาก็จะขอฝนมาทำนา ก็ส่งสัญญาณบอกแถนด้วยการจุดบั้งไฟ

ที่มา: มติชนออนไลน์


นักท่องเที่ยวแห่ชมสวนสัตว์ขอนแก่นแน่น หลังมั่นใจความปลอดภัย


นักท่องเที่ยวแห่เที่ยวชมสวนสัตว์ขอนแก่นวันหยุดสุดสัปดาห์เนืองแน่น เหตุเชื่อมั่นความปลอดภัย หลังปรับปรุง และแก้ปัญหาภายในสวนสัตว์
      
       วันนี้ (26 ก.ค.) ที่สวนสัตว์ขอนแก่น อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น ประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาเที่ยวชมสวนสัตว์ขอนแก่นมากเป็นพิเศษ ทั้งในลักษณะคณะทัวร์ด้วยรถโดยสารขนาดใหญ่ ครอบครัวที่เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว หลังจากสวนสัตว์เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อ วันที่ 24 ก.ค. หลังปิดปรับปรุงเป็นระยะเวลา 19 วัน เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุสลด รถรางนำเที่ยวชนกันจนทำให้มีเสียชีวิตกว่า 7 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก


       นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ กล่าวว่า กรณีอุบัติเหตุรถรางมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งได้ปิดให้บริการ 19 วัน ขณะนี้ได้สร้างจุดจอดรถฉุกเฉิน และติดตั้งป้ายแจ้งเตือน โดยเฉพาะในจุดที่เกิดเหตุรถรางชนกัน ภายในพื้นที่จัดกิจกรรมโซนที่ 3 ทุ่งแสนกวาง ซึ่งเป็นช่วงทางโค้งลงเนินเขาได้ทำเสร็จทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ถนนเส้นทางเข้าสวนสัตว์ ถนนเส้นเที่ยวชมสัตว์ ทางขึ้น-ลงสวนน้ำ

     
       รถนำเที่ยวทุกคันจะต้องติดตั้งป้ายแจ้ง หรือหมายเลขโทรศัพท์กรณีไม่ได้รับความสะดวกในการบริการ ตรวจเช็กความพร้อมของรถนำเที่ยวให้พร้อมบริการอย่างปลอดภัย ทั้งระบบเบรก เครื่องยนต์ และอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ
      
       พนักงานขับรถนำเที่ยวจะต้องมีความรู้ ความชำนาญการขับขี่ ขับรถไม่ประมาท คำนึงถึงความปลอดภัยนักท่องเที่ยว มีพนักงานประจำรถคันละ 2 คน คือ พนักงานขับรถ และวิทยากรผู้บรรยาย มีการอบรมพนักงาน ฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินเรื่องให้บริการด้านความปลอดภัย ปฏิบัติตามสัญญาระเบียบขององค์การสวนสัตว์อย่างเคร่งครัด กำหนดช่วงระยะเวลาการให้บริการอย่างชัดเจน

   
 
       ด้าน นายเทวินทร์ รัตนะวงศะวัต ผู้อำนวยการสวนสัตว์ขอนแก่น เปิดเผยว่า กรณีอุบัติเหตุรถรางชมสัตว์พลิกคว่ำมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก องค์กรสวนสัตว์ได้ชดเชยให้แก่ผู้เสียชีวิตในเบื้องต้นรายละ 100,000 บาท และเงินบำเพ็ญกุศลศพรายละ 100,000 บาท ส่วนผู้บาดเจ็บทั้งหมดอาการปลอดภัยแล้ว ซึ่งได้ให้การช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลทุกคน พร้อมกับจะมีค่าสินไหมในแต่ละรายด้วย ส่วนคดีความนั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายโดยจะไม่กล่าวโทษใครผิดใครถูก

ที่มา: Manager


จับหนุ่มขอนแก่นอ้างเป็นที่ปรึกษารอง ปธ.ศาลฎีกา แชตลวงเหยื่อมอมยารูดทรัพย์


รวบหนุ่มขอนแก่น อ้างเป็นที่ปรึกษารองประธานศาลฎีกา ลวงเหยื่อผ่านโปรแกรมแชต แล้วนัดกินข้าวก่อนมอมยาฉกไอแพด และโอนเงินเหยื่อเข้าบัญชีตัวเอง สารภาพก่อเหตุมาแล้ว 2 - 3 ครั้ง
      
       วันที่ 25 ก.ค. ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายเกริกกิจ หรือ ปาย เลิศสุภานันท์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.1 ต.เปือยน้อย อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1582/2558 ลงวันที่ 13 ก.ค. 2558 ได้ภายในบ้านเลขที่ 43 ม.2 ต.ป่าปอ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น


       พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 พ.ค.2558 ที่ผ่านมา ผู้ต้องหารายนี้ได้แอบอ้างตัวเป็นที่ปรึกษา นายอร่าม เสนามนตรี รองประธานศาลฎีกาแล้วเข้าไปทำทีตีสนิทกับเหยื่อผู้เสียหายที่เป็นหญิงสาวหน้าตาดีมีฐานะผ่านทางแอปพลิเคชันบีทอล์ก (betalk) และเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อไว้เนื้อเชื่อใจก็จะนัดกินข้าวพบปะพูดคุยกัน จากนั้นนายเกริกกิจก็จะหาโอกาสที่เหยื่อเผลอตัวแอบวางยานอนหลับให้เหยื่อรับประทานจนหมดสติ ก่อนจะแอบหยิบไอแพดของเหยื่อแล้วทำการโอนเงินเข้าบัญชีของตนเอง ซึ่งกว่าที่ผู้เสียหายจะฟื้นคืนสติผู้ต้องหารายนี้ก็ได้หลบหนีไปแล้ว
      
       ทั้งนี้ ภายหลังจากได้รับเรื่องดังกล่าวแล้ว ทางกองบังคับการปราบปรามก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมลงพื้นที่ออกสืบหาเบาะแส จนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จึงนำกำลังพร้อมหมายจับเข้าไปดำเนินการจับกุมตัวได้ดังกล่าว
      
       จากการสอบสวนนายเกริกกิจ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รู้จัก นายอร่าม เสนามนตรี จริง และก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมา 2 - 3 ครั้ง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ที่มา: Manager


ขอนแก่นร่วมหล่อต้นเทียนพรรษา 40 เล่ม


นายกเล็กขอนแก่น นำชาวชุมชนร่วมหล่อต้นเทียนพรรษา 40 เล่ม ทอดถวาย 20 วัด วันเข้าพรรษาปีนี้
นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เป็นประธานในพิธีหล่อเทียนพรรษา เพื่ออนุรักษ์สืบสานประเพณีเนื่องในวันเข้าพรรษา ประจำปี 2558 โดยร่วมกับชาวชุมชนทำการหล่อเทียน 40 เล่ม 20 คู่ ที่วัดวุฒาราม เขตเทศบาลนครขอนแก่น สำหรับการนำไปถวายวัด ในเขตเมืองขอนแก่น รวมทั้งหมด 20 วัด โดยมีชาวชุมชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ร่วมกันนำขี้ผึ้ง, เทียนเล็ก รวมไปถึงฐานต้นเทียนที่ใช้แล้วนำมาบริจาค เพื่อหล่อเป็นต้นเทียนต้นใหญ่ เป็นจำนวนมาก


นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า เทียนพรรษาทั้ง 40 เล่มจะร่วมกันทอดถวายในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันยังคงร่วมกันทอดต้นดอกเงิน เพื่อถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ สำหรับการนำไปใช้ในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เนื่องในงานบุญประเพณีประจำปีที่ได้กำหนดจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี





ที่มา: INN


Friday, July 24, 2015

ล่าทหารเก๊รีดเก็บเงินหมื่นแลกไม่โค่นยาง


เมื่อวันที่ 24 ก.ค.พ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานด้านกฎหมายกองทัพภาคที่2 ชุดทวงคืนผืนป่า กล่าวว่า ได้สั่งเจ้าหน้าที่เร่งติดตามจับกุมบุคคลที่แอบอ้างเป็นทหารเรียเก็บเงิน เกษตรกรรายละ 1 หมื่นบาทแลกกับไม่ต้องถูกโค่นต้นยางพาราที่บุกรุกปลูกสวนยางพาราในผื่นป่า ของรัฐทำให้มีประชาชนหลงเชื่อและจ่ายเงินไปแล้วหลายราย โดยเฉพาะในพื้นที่จ.ชัยภูมิ ขอนแก่น และจ.นครราชสีมา


พ.อ.สมหมาย กล่าวอีกว่า จากการสอบถามไปยังหน่วยทหารทุกหน่วยในสังกัดกองทัพภาคที่2 ก็ยังไม่พบว่าเป็นทหารในสังกัดไหน และขึ้นตรงกับใครกระทำการดังกล่าว ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่าน่าจะเป็นกลุ่มมิชฉาชีพที่อาศัยช่วงที่เจ้าหน้าที่ ดำเนินการทวงคืนผืนป่า แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปเพื่อหลอกลวงประชาชน แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ทหารในคณะทำงานด้านกฎหมายกองทัพภาคที่2 อย่างแน่นอน ทั้งนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกนายนั้นมีการประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนใน ทุกพื้นที่ว่า ทางกองทัพภาคไม่มีนโยบายเรียกเก็บเงินเพื่อให้ความผิดนั้นกลายเป็นถูกได้ ซึ่งหากใครที่กระทำผิดไว้ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย

"ตอนนี้ยังไม่สามารถเข้าแจ้งความดำเนินคดีได้ เนื่องจากไม่ได้เป็นผู้เสียหายอีกทั้งก็ยังไม่มีการใช้ชื่อผมในการแอบอ้างจน เสื่อมเสียชื่อเสียง ส่วนประชาชนรายใดที่ถูกบุคคลที่แอบอ้างเป็นทหารไปเรียกเก็บเงินขอให้ไปแจ้ง ความดำเนินคดีได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่เพื่อที่จะได้มีผู้เสียหาย และการกระทำผิดของบุคคลดังกล่าวนั้นครบถ้วนในการดำเนินคดีกับบุคคลดัง กล่าว"พ.อ.สมหมาย กล่าว

ที่มา: โพสต์ทูเดย์


เปิดสวนสัตว์ขอนแก่นวันแรกหลังปิด 19 วัน


เปิดสวนสัตว์ขอนแก่นวันแรก หลังปิดให้บริการนานกว่า 19 วัน ผอ.ยันความปลอดภัยเต็มร้อย

นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยและการให้บริการในภาพรวมทั้งระบบหลังการเปิดให้บริการวันนี้วันแรกของสวนสัตว์ขอนแก่น หลังปิดให้บริการนานกว่า 19 วันจากเหตุรถรางนำเที่ยวพุ่งชนท้ายกันจนทำให้ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 7 ราย และได้รับบาดเจ็บรวมกว่า 40 ราย โดยยังคงพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติทยอยกันมาเที่ยวชมและร่วมกิจกรรมต่างๆ ของสวนสัตว์ขอนแก่นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน


นายเบญจพล กล่าวว่า ได้เร่งสร้างจุดจอดรถฉุกเฉิน ราวสะพานรวมไปถึงป้ายสัญญาณจราจรตามหลักวิศวกรรมสถานในทุกจุด เนื่องจากสวนสัตว์แห่งนี้เป็นพื้นที่เชิงเขา อย่างไรก็ตาม ได้สั่งห้ามการให้บริการนำพ่วงโดยเด็ดขาดและให้ปรับมาใช้บริการรถรางนำเที่ยวแบบ 35 ที่นั่งเท่านั้น ขณะที่การให้ความช่วยเหลือผู้เสียชีวิตทั้ง 7 รายในเบื้องต้นได้จ่ายเงินชดเชยรายละ 100,000 บาท

ที่มา: Sanook


กด Like เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเรา

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter